กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ปะทุ

ว่าด้วยการเติบโต ปรับตัว ด้วยแรงปะทะ โดยพลังใหม่ๆทางธุรกิจ

-28 มกราคม 2564  เข้าถือหุ้น INTUCH 15%

-19 เมษายน 2564 ประกาศ tender offer   INTUCH ในราคา 65 บาทต่อหุ้น

-5 สิงหาคม 2564  สามารถถือหุ้นใหญ่ INTUCH ได้ถึง 42.25%

หากไม่กล่าวถึง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี(Gulf Energy) บ้าง เหมือนจะเข้าไม่ถึงความเป็นไปของสังคมธุรกิจไทยในเวลานี้

เรื่องราวไคลแมกซ์เกิดขึ้น จากถ้อยแถลงเมื่อไม่นานมานี้  บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ GULF ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ (19 เมษายน 2564) อ้างถึง มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (18 เมษายน 2564) มีสาระโดยสรุป

GULF ประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (tender offer) บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในราคา 65 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีผลกระทบถึงบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โดยเสนอซื้อในราคา 122.86 บาทต่อหุ้น “มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle” ทั้งนี้ข้อสนเทศตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า INTUCH ถือหุ้นใหญ่ที่สุดใน ADVANC ถึง 40.5% ตอนนั้นคาดกันว่าหากดีลทั้งยวง จบลงอย่างที่ว่า GULF จะต้องใช้เงินกว่า 5แสนล้านบาท  

นับเป็นแผนการที่น่าสนใจ เป็นดีลที่มีความเชื่อมโยง จากกิจการหนึ่งสู่อีกกิจการหนึ่งที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่อพิจารณาอย่างคร่าวๆ ดัชนีทางการเงินที่สำคัญบางตัว  โดยเฉพาะรายได้และกำไรล่าสุด(งบการเงินปี2563)  GULF( รายได้33,370ล้านบาท/ กำไร4,282 ล้านบาท)  INTUCH(4,572/ 11,047 ) และ ADVANC(173,720/ 27,434 )

เรื่องราวที่มาและที่ไป  ความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นในช่วงเวลาสังคมไทยกำลังโกลาหล กับวิกฤติการณ์ COVID-19 ระลอกแรก ช่วงเวลาดัชนีราคาตลาดหุ้นไทยตกต่ำลงค่อนข้างรุนแรง  จนถึงปลายเดือนมิถุนายน ( 2563)  GULF ได้ซื้อหุ้น INTUCH มีสัดส่วนเกือบ 5%

มาอีกช่วงในต้นปี2564  GULF ได้เข้าถือหุ้นใน INTUCH มีสัดส่วนอย่างมีนัยยะสำคัญ ถึง15%(อ้างจาก กรณี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รับแบบรายงานการได้มา หุ้นของบริษัท อินทัช   โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564) ขณะเวลาทำคำเสนอชื่อหุ้นข้างต้น  GULF ให้ข้อมูลว่ามีหุ้นใน INTUCH มากขึ้นถึงราว ๆ19%แล้ว

เรื่องราวและแง่มุม มีความสัมพันธ์กันหลายมิติ ทั้งเชื่อมโยงไปถึงดีลใหญ่อันสั่นสะเทือนเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว  จากสังคมธุรกิจไทย สู่การเมืองระดับประเทศ ไปจนเครือข่ายธุรกิจใหญ่แห่งสิงคโปร์ “กรุงเทพฯ/23มกราคม 2549 — บริษัทเทมาเส็กโฮลดิ้งส์ (พีทีอี) จำกัด (“เทมาเส็ก”) ธนาคารไทย พาณิชย์ (เอสซีบี) และกลุ่มนักลงทุนไทยในนามของบริษัทกุหลาบแก้วได้บรรลุข้อตกลงกับตระกูลชินวัตรและตระกูลดามาพงศ์ในการซื้อหุ้นของทั้งสองตระกูลในบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“ชิน”) จำนวน 1,487.7 ล้านหุ้น หรือ 49.6% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 73.3 พันล้านบาท” หัวข้อข่าวในเวลานั้น

ปัจจุบัน(ข้อมูล ณ 23/02/2564)  INTUCH (คงไม่ลืมกันว่าชื่อเดิม –ชิน คอร์ปอเรชั่น)ยังคงมีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นเครือข่ายธุรกิจสื่อสารยักษ์ใหญ่แห่งสิงคโปร์ -Singtel (ผ่าน SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD   ถือหุ้นในสัดส่วน 21%) ขณะที่ ADVANC ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ก็เป็น Singtel เช่นเดียวกัน (SINGTEL STRATEGIC INVESTMENTS PTE LTD. ถือหุ้นในสัดส่วน 23.32%) ความซับซ้อนยอกย้อนข้างต้น มีนัยยะหนึ่งว่า ADVANC เป็นกิจการที่ความสำคัญอย่างมากสำหรับ Singtel

ผู้เขียน: viratts

writer and farmer

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

%d bloggers like this: