ด้วยแรงบันดาลใจอันทรงพลัง “เวลากาแฟ”@บ้าน ดูเป็นการเป็นงานขึ้น
ด้วยพลังซึ่งผสมผสานสร้างสีสัน กระตุ้นการเรียนรู้ “ชิ้นส่วน” หลากหลาย กอปรขึ้นเป็นองค์ความรู้รวม เชื่อมโยงบริบทลึกและกว้าง ท่ามกลางวิถีครอบครัวระยะเปลี่ยนผ่าน
ที่สำคัญสัมพันธ์กับช่วงชีวิตของบุตรทั้งสองกับการศึกษาในต่างแดนอย่างต่อเนื่องและคาบเกี่ยวกัน จากมัธยมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย จากนิวซีแลนด์ (2548-2556) ถึงอังกฤษ (2553-2561)
เปิดฉากตอนใหม่ จุดประกายดังภาพแรกบันทึกไว้ใน Facebook ส่วนตัวเพิ่งเข้าใช้ในปีนั้น (2553) เข้าถึงได้อย่างจำกัด เฉพาะเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันในชีวิตจริง (จากไม่กี่คน ถึงแค่ 100 กว่าคนในปัจจุบัน) “บอกเล่าเรื่องราวซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ..” แม้คำบรรยายกระชับ แต่มีนัยขับเคลื่อนไปไกลกว่าที่คิด “ถ้วยทำมือระบุช่วงเวลาสำคัญของคนคนหนึ่ง กับกาแฟ ของฝากจาก New Zealand ..”(ภาพ 1)
ช่วงปี 2553 เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตการศึกษาของบุตรทั้งสอง บุตรคนโตเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษานิวซีแลนด์ (2548-2553) จากโรงเรียนกิน-นอนเก่าแก่ ในเมืองเล็ก ๆ –Nelson ตอนเหนือของเกาะใต้ ข้ามไปอีกซีกโลก เริ่มต้นกับสถาบันการศึกษาด้านออกแบบชั้นนำ ใน London (2553-2557) ขณะบุตรคนเล็กจากมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย สวนทางกับพี่ชาย ไปเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลาย ณ โรงเรียนมีชื่อในเมืองใหญ่ที่สุด-Auckland อยู่เกาะเหนือ (2553-2556)
เป็นช่วงเวลาที่สมาชิกครอบครัวห่างไกลกันหลายพันไมล์ และอยู่คนละทิศละทาง ยังดีมีสื่อสารสายสัมพันธ์ทางไกล ดูเหมือนอยู่ใกล้กันขึ้นมาบ้าง บทสนทนาข้ามโลกเร้าใจในเวลาห่างกันกับบุตรคนเล็กแต่เช้าตรู่ ขณะกับบุตรคนโตอยู่ในช่วงดึก ๆ จากใช้บริการโทรศัพท์ทางไกลในราคาแพงลิบลิ่ว สู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่ดีและสมเหตุผล เมื่อระบบอินเทอร์เน็ตกระชับเชื่อมโลก
ไม่ว่าจะอย่างไร ช่วงเวลาแสนพิเศษสั้น ๆ ก็มาถึงเสมอ เมื่อพวกเขากลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมกันช่วงปลายปี โรงเรียนในนิวซีแลนด์ปิดเทอมใหญ่นับเดือน ส่วนมหาวิทยาลัยในอังกฤษ มี Christmas break แค่ครึ่งเดือน มักใช้โอกาสนั้นมีกิจกรรมร่วมกัน Road trip เที่ยวทั่วเมืองไทยหลายวัน ในมุมกว้างตั้งใจให้เข้าถึงสังคมไทยมากขึ้น ในมุมลึก เพื่อทำความเข้าใจ เชื่อมโยง และแชร์ความคิด ประสบการณ์ชีวิตของกันและกัน
ในนั้นมีจุดแวะหนึ่งในทริปขึ้นเหนือ ในเมืองทางผ่าน-ลำปาง มีโอกาสสัมผัสความสัมพันธ์อันน่าทึ่ง โรงงานเซรามิกเล็ก ๆ กับโลกกว้าง เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และแบรนด์ระดับโลกแห่งยุโรป กับความชำนาญของชุมชนท้องถิ่น ในงานวาดลวดลายด้วยมือ (Hand painted) มีส่วนต่อยอดอยู่ด้วย รังสรรค์สินค้าต้นตำรับเอง บางชิ้นที่ได้มา กลายเป็นเศษเสี้ยวการสื่อสารสัมพันธ์ทางครอบครัว ด้วยเรื่องราวและแง่มุมกว้างขึ้น ๆ ผ่าน “เวลากาแฟ”@บ้าน
“ถ้วยกาแฟ” เป็นนิยามเฉพาะตนที่ต่างออกไป กลายเป็นชิ้นส่วนต่อเติม เป็นจุดตั้งต้นของสะสมใหม่ที่ตื่นตา ทยอยมาจากหลายแหล่ง ชิ้นหนึ่งนั้นเป็นของฝากมาไกลทีเดียว “The Incomplete Truth anamorphic cup and saucer” (ภาพ 2–5) ออกแบบโดย Damien Hirst ศิลปินชาวอังกฤษ ว่ากันว่ารวยที่สุดตอนยังมีชีวิตอยู่ บุตรคนโตจัดหา เมื่อมีเวลาแวะชมนิทรรศการที่ Tate Modern ขณะ Damien Hirst กำลังแสดงผลงานที่นั่น (ปี 2555)




มิติเกี่ยวกับกาแฟ เปิดกว้างมากขึ้น ๆ โดยเฉพาะกับของฝากไม่ขาดสายมาจากนิวซีแลนด์ ก่อเกิดแรงกระเพื่อมพอควร ปะทะกับความคิดให้เทียบเคียงกับสังคมไทยได้หลายระดับ ท่ามกลางกระแสกาแฟคลื่นลูกที่สอง (second wave coffee) เพิ่งมาถึงไม่นาน ช่วงเดียวกันที่ทั้งไทยและนิวซีแลนด์ผ่านปรากฏการณ์ Starbucks (เปิดสาขาแรกปีเดียวกัน-2541)
ของฝากนั้นซื้อมาจาก Farmers ห้างสรรพสินค้าชื่อนี้ (ภาพ 5) หากอยู่ที่เมืองไทยเชื่อว่าจะให้อารมณ์และจินตนาการไม่น้อย ที่น่าสนใจก่อตั้งในนิวซีแลนด์มากว่า 100 ปี ริเริ่มรวมกลุ่มโดยสหภาพเกษตรกร (Farmers Union) จากแบบแผนขายสินค้าผ่านไปรษณีย์ ผ่าน catalog ในช่วงแรก ๆ สู่ยุคสมัยใหม่ กลายเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดกลาง ปัจจุบันมีสาขาทั่วนิวซีแลนด์ ราว 60 แห่ง
ที่สำคัญกว่านั้น เป็นของฝากซึ่งเข้ามาอยู่ในใจกลาง “เวลากาแฟ” อยู่ในปลายห่วงโซ่แห่งกระบวนการ และเป็นทางเลือกเฉพาะตัวของ “คอกาแฟ” คนหนึ่ง ซึ่งอยากไปให้ถึง key word ที่ว่า ๆ กัน “Great coffee starts with great beans”
ว่าไปแล้วเป็นจินตนาการต่อเนื่อง อย่างที่เคยนำเสนอไว้ อาจเป็นภาพฉาบฉวย “…ภาพสะท้อนไลฟ์สไตล์ของกีวี เชนกาแฟบุคลิกใหม่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด…” (จากเรื่อง “พาลูกไปเล่นสกี” 2548) ครั้นสัมผัสผลิตภัณฑ์กาแฟนิวซีแลนด์อย่างจริงจังและต่อเนื่องมากขึ้น (บุตรคนเล็กซื้อมาฝากช่วงปี 2553-2556) ได้รับรู้เรื่องราวที่ซ่อนดูซับซ้อนขึ้นตามลำดับ
ข้างหลังภาพผลิตภัณฑ์นั้น (ภาพ 6-8 ) ย่อมมีเรื่องราวเกี่ยวกับโรงคั่วกาแฟหลาย ๆ แห่ง ก่อตั้งกันมาพักใหญ่ ส่วนใหญ่หลายแห่งมีมาก่อน บางรายเกือบทศวรรษ กว่า Starbucks จะมาถึงนิวซีแลนด์ มากับเรื่องเล่าเบื้องหลัง ความสัมพันธ์กับต้นแหล่งกาแฟชั้นดีในโลก ภายใต้เครือข่าย กับความโยงใยที่ควรเป็น กับสหกรณ์ (co-ops) และองค์กรสนับสนุน (trade aid) ระดับโลก ในเวลานั้นความสำคัญเด่นชัดแล้วเกี่ยวกับ กาแฟอินทรีย์ (Organic) และระบบการค้าเป็นธรรม (Fair trade) ว่าเฉพาะ Fair trade กาแฟจากโรงคั่วนิวซีแลนด์มีมาก่อน (รายแรกปี 2540) Starbucks (ปี 2543) เสียด้วยซ้ำ และแน่นอนมาก่อนกาแฟไทย (กาแฟดอยช้าง เป็นรายแรกปี 2550)



นั่นเป็นเพียงช่วงหนึ่งในชีวิต กับทางเลือกที่พอมีอยู่ ดูแตกต่าง มีส่วนกระตุ้นให้โลกแห่งกาแฟในความคิดกว้างขึ้น อีกไม่นานจากนั้นสถานการณ์ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป กาแฟไทยยุคใหม่เริ่มตั้งหลัก ความสนใจจัดหากาแฟจากโรงคั่วต่างประเทศได้ลดระดับลง
