ซีรีส์ ….(8) กระแสธารกาแฟไทย

จากปลายทางกระบวนการกาแฟ ณ เมืองใหญ่ระดับโลก(ตอนที่แล้ว) สู่ต้นธารหนึ่งซึ่งห่างไกลกันนับพันไมล์

กระแสปลุกเร้าความสนใจบ่มมาได้ที่ ในช่วงคาบเกี่ยวกันนั้น ให้ดั้นด้นเดินทางไป สัมผัสเรื่องราวที่แตกต่างเฉพาะตัว ที่มีจุดหมายมาบรรจบกัน

เปิดฉากตั้งแต่ต้นปี2560 ด้วยทริปจำปาสัก แดนต่อแดนอีสานตะวันออก หมุดหมายหนึ่งซึ่งเป็นทางแยกออกจากโปรแกรมยอดนิยม ชมน้ำตกอันตื่นตา กับประสาทหินโบราณ  ไปยังที่ราบสูง-  Paksong Highland อย่างตั้งใจไปถึงไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในลาวและเท่าที่เคยเห็น  พื้นที่อันกว้างใหญ่สุดลุกหูลูกตา ร่องรอยเพิ่งหักล้างถางพงครั้งใหญ่ บางทีอาจคิดได้ทำเช่นนั้นมากเกินไป จึงมีการปลูกพืชยืนต้นขึ้นมาใหม่ประปราย

ที่นั่น แม้เป็นดินแดนเพื่อนบ้าน “อ้ายน้อง”   แต่ว่าเจ้าของสัมปทานที่แปลงใหญ่กว่า15,000 ไร่ คือคนไทย เกี่ยวข้องกับเบียร์ไทย “ขาใหญ่” กับแผนการใหญ่อันบรรเจิดขยายไลน์สู่ธุรกิจใหม่(ภาพ1-3)

ที่ราบสูงราว1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล เคยเป็นพื้นที่สู้รบในยุคสงครามเวียดนาม  ต้องแผ้วถางอย่างระแวดระวัง พร้อมกับทำลายระเบิดและกับระเบิดตกค้าง ที่ซึ่งหายาก บนพื้นดินภูเขาไฟอุดมสมบูรณ์ และอุณหภูมิที่แตกต่างกันมาก ระหว่างกลางวันกับกลางคืน ถือว่าตรงตามสูตรความสำเร็จในกระบวนการผลิตกาแฟรสเลิศ

แม้ภาพและเรื่องราวดูยิ่งใหญ่ ตื่นเต้นตามกระแส  แต่ดูเหมือนห่างใกล เข้าไม่ถึงใจเท่าที่ควร

ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน กับอีกหมุดหมาย  ในการเดินทางครั้งต่อมา จากนั้นไม่ถึงเดือน  ที่ซึ่งสัมผัสใจและเข้าถึงได้  ณ ชุมชนเล็ก ๆ ท่ามกลางดอยสูงภาคเหนือของไทย

บ้านแม่กำปอง(ภาพ4-6)—ชุมชนอายุประมาณ200ปี ท่ามกลางหุบเขาสูงชัน พึ่งพิงสายน้ำตก กลายเป็นลำธารทอดยาวไหลริน ส่งเสียงซัดซ่าไม่ขาดสาย ประหนึ่งชีพจรชีวิต ชุมชนซึ่งมีเสน่ห์ล้นเหลือ ก่อเกิดและสัมพันธ์กับ การบุกเบิกเปิดพื้นที่ปลูกชาอัสสัม(เมี้ยง)มาช้านาน แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้เคลื่อนไหวผสมผสาน สู่ชุมชนกาแฟอย่างกระตือรือร้นด้วย

หมู่บ้านซ่อนตัวอยู่ชายขอบเชียงใหม่ มีด้านหนึ่งจรดลำปาง   สามารถเลือกเส้นทางท้าทาย ลัดเลาะวกวน บนเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน  จากดินแดนลำปางมาถึง กิ่วฝิ่น ยอดดอยสูงแหล่งชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น เขตรอยต่อลำปาง-เชียงใหม่ จากนั้นเส้นทางลงเขาชันราว ๆ 3 กิโลเมตร ก็มาถึงจุดหมาย

ชุมชนทอดตัวตามลำน้ำไส  บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า1,300 เมตร สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ เอื้อเป็นแหล่งเพาะปลูกชั้นดีกาแฟพันธุ์อาราบิก้า   พื้นที่ปลูกเป็นฉากหลังกลมกลืน กับวิถีชีวิตดำเนินไปอย่างไม่เร่งรีบ

หน้าฉากนั้น มีร้านกาแฟ  บางแห่งอยู่สุดทางหมู่บ้าน บนริมทาง เชิงเขา มีระเบียงเปิดกว้าง มองออกไปไกลระหว่างหุบเขา เห็นชุมชนบางส่วน  บางร้านอยู่ติดริมลำธาร ผู้มาเยือนมานั่งแช่เท้าในน้ำได้  อยู่ในบ้านเก่าด้วยงานฝีมือไม้เป็นเอกลักษณ์   สังเกตดี ๆ จะพบแปลงเพาะปลูกกาแฟ ผืนเล็ก ๆ กระจายเป็นหย่อมๆ แทรกตัวอยู่ ปรุงแต่งบรรยากาศ กลมกลืนกับบ้านเรือนโฮมสเตย์ หรือ ร้านกาแฟ  และบางที่ให้ภาพกระบวนการกาแฟชุมชนทั้งวงจรด้วย

การเดินทางครั้งใหม่ในปลายปี2561 ช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยโฟว์วีล ไต่ ปีน ลัด เลาะไปตามเส้นทางเล็ก ๆ บางช่วงเฉอะแฉะ คดเคี้ยว ท่ามกลางเทือกเขา สูงชัน สลับซับซ้อน  มีหลายดอย หลายชีวิตผู้คนชนเผ่า และหลายตำนาน ไม่ว่าชนเผ่าอันโดดเดี่ยว กับช่วงเวลาหนึ่งกับกระบวนการคอมมิวนิสต์

บ้านมณีพฤกษ์ (ภาพ7-8) อยู่ในอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน บนพื้นที่ภูเขาสูง 1,400-1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล  เรื่องราวกาแฟที่นี่ เพิ่งเกิดขึ้นราวทศวรรษเดียว เกี่ยวข้องกับผู้คนหลายคน หลายส่วน คนละไม้คนละมือ คนๆหนึ่งในนั้น เกิดที่นี่ ตั้งแต่บ้านยังชื่อจงไฝ่ ฝรั่งมิชชั่นารี ผู้มีบทบาทบุกเบิก เชื่อมโยงห่วงโซ่จากต้นธารถึงปลายทาง สร้างแบรนด์กาแฟไทยให้โดดเด่น

ฝรั่งมิชชั่นารีคนนั้น จากไปพักหนึ่งช่วงวัยศึกษาเล่าเรียนในสหรัฐ  ได้กลับมามณีพฤกษ์อีกครั้ง ในเวลากาแฟภาคเหนือไทย กำลังตั้งต้นอย่างตื่นเต้น เขาพกประสบการณ์กาแฟที่แตกต่าง เพื่อยกระดับกาแฟไทยไปอีกขั้น ให้สัมพันธ์กับช่วงเวลาสังคมอเมริกัน กำลังเดินหน้าสู่กาแฟยุคใหม่ ที่เรียกว่า Third wave of coffee  ด้วยพยายามถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้สู่ชุมชน รวมทั้งบุกเบิกอย่างสำคัญ  แสวงหาพันธุ์กาแฟให้หลากหลาย    จากสายพันธุ์เดี่ยวสู่สายพันธุ์ใหม่ๆ เพิ่มคุณค่าต้นธาร ให้ก้าวทันตามกระแสอันเชี่ยวกราก

การเดินทางดั้นด้นค้นหาต้นธาร แม้เพียงบางแห่ง แต่เชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนสะท้อนภาพใหญ่  กาแฟไทยในกระแสโลก

ไม่เพียงเป็นประสบการณ์เร้าใจ  หากสร้างแรงบันดาลใจให้สวมวิญญาณเกษตรกร ขอเป็นเศษเสี้ยวหนึ่งในบรรดาผู้ยืนอยู่ต้นธารกาแฟไทย

ไม่ทราบ's avatar

ผู้เขียน: viratts

writer and farmer

ใส่ความเห็น