ธุรกิจใหญ่(1)

ภาพรวมที่น่าสนใจ เจาะลงระดับธุรกิจ มองผ่านตลาดหุ้นไทย ปรากฏโฉมหน้าธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งสะท้อนการดำรงอยู่ของธุรกิจใหญ่เดิม การเกิดและเติบโตขึ้นเป็นธุรกิจใหญ่ใหม่ และธุรกิจระดับโลกที่ซ่อนตัวอย่างเงียบๆในสังคมไทย  จิ๊กซอร์แต่ละชิ้นต่อเป็นภาพที่ควรตีความอย่างยิ่ง

หากพิจารณาจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จากฐานข้อมูลทางบัญชีแสดงความสามารถทางธุรกิจเฉพาะยอดขายมากกว่า  20,000 ล้านบาทต่อปี (งบการเงินปี 2553) บริษัทในอันดับต้นๆกลุ่มใหญ่ มีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ เชื่อมโยงลงลึกถึงระดับผู้ถือหุ้นใหญ่   ก่อเป็นภาพใหม่ของกลุ่มธุรกิจใหญ่ ภาพนั้นเชื่อมโยงกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจากช่วงวิกฤติการณ์ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน

ตอนแรกจำเป็นปูพื้นภาพรวม เกี่ยวกับกิจหลักใหญ่ๆที่รู้จักกันดีอย่างย่นย่อ    ก่อนจะนำไปสู่ความพยายามอรรถาธิบายบกลุ่มใหม่ๆที่เชื่อว่าจะเป็นภาพใหม่ทีน่าสนใจพอสมควร

กลุ่มปตท.

การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้แปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ 2542 ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่เมื่อ1 ตุลาคม 2544จากนั้นปตท.เข้าจดทะเยนและซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ในปลายปีเดียวกัน ในช่วงปีแรกราคาหุ้นก็ขยับขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงปี 2547สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ในยุคทักษิณ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี 17กุมภาพันธ์2544–19 กันยายน2549) ซึ่งเต็มไปด้วยการแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงหลังวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่   กลุ่มปตท.อันยิ่งใหญ่ในวันนี้ เริ่มต้นจากจุดนั้น กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของสังคมธุรกิจไทยหลังวิกฤติการณ์ สามารถกลบภาพเคลื่อนไหวอื่นๆไปอย่างมาก

ในปี 2547เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากวิกฤติครั้งใหญ่ที่ยืดเยื้อ การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในรอบสองทศวรรษ เช่นเดียวราคาน้ำมันสูงขึ้น ปตท.ขยายตัวอย่างมาก จากสินทรัพย์ระดับ 3แสนล้านบาท (2545) เพิ่มเป็น 9 แสนล้านบาทเพียง 2ปี (2547) จากกำไรประมาณ 24,000 ล้านบาท ในปี2545 เพิ่มเป็นประมาณ 90,000ล้านบาทในปี 2548-9     ขณะเดียวกันราคาหุ้นจากไม่ถึง 50 บาทในวันเข้าตลาดหุ้นในปลายปี 2545เพิ่มขึ้นทะลุ400 บาทในปี 2547

“ปรากฏการณ์นี้บอกว่าความเป็นรัฐวิสาหกิจในความหมายเดิมที่ว่าด้วยยุทธ์ศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงาน กำลังเปลี่ยนไป  กลายเป็นบริษัทและหลักทรัพย์ที่สร้างโอกาสอย่างมากให้กับนักลงทุนระดับกว้างขึ้น  แม้ว่ากระทรวงการคลังจะถือหุ้นข้างมาก ก็คงมองความเป็นไปของกลไกลอย่างที่ผ่านเลยไป ผลประโยชน์แม้อาจะมากขึ้นก็คงมาจากเงินปันผล ปตท.กลายเป็นแม่เหล็กหรือหุ้นบลูชิพ มีบทบาทนำในตลาดหุ้นในสถานการณ์หลังจากตลาดหุ้นตกต่ำมานานพอสมควร  เป็นที่แน่ชัดว่าย่อมตามด้วยความคาดหมายของนักลงทุนที่สูงขึ้นๆ      มีผู้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ในนามนักลงทุนจำนวนมากขึ้นๆ  วงจรว่าด้วยแรงกดดันเพื่อรักษาระดับราคาหุ้น กลายเป็นปัจจัยหนึ่งของการบริหารจัดการอย่างอัตโนมัติ”ผมเคยกล่าวมาก่อนหน้านี้

อีกมิติหนึ่งโอกาสทางธุรกิจที่ว่าด้วยยุคทองของกิจการด้านพลังงานเปิดกว้างขึ้น จากผลประกอบการที่ดี ได้กระตุ้นและเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์เดิมจากกิจการพลังงานที่ดูแลความมั่นคงในประเทศ ไปสู่ความทะเยอทะยานเป็นกิจการพลังงานระดับโลก   เครือข่ายธุรกิจพลังงานครบวงจรภายใต้การสนับสนุนของรัฐ  เป็นโมเดลของประเทศกำลังเติบโต น่าสนใจอย่างมากในเวลานั้น

โดยเฉพาะความพยามหลอมรวมกับ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเดิมก่อร่างสร้างเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว ไม่รุ่งโรจน์”โชตช่วงชัชวาล”อย่างที่คิด การลงทุนขนาดใหญ่บวกกับธรรมชาติของธุรกิจผันแปรไปตามตลาดโลก แต่ผู้คนลืมภาพนั้นไปบ้าง ภาพหลอมรวมในกลุ่มปตท. ยิ่งใหญ่ น่ากลัวยิ่งนัก เพียงแค่มองภาพบางส่วนในตลาดหุ้น พบว่าบริษัทที่มียอดขายและกำไรสูงอันต้นๆของประเทศถูกยึดครองแทบจะสิ้นเชิง โดย บริษัทปตท.และบริษัทเกี่ยวข้อง อาทิ  ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น   ไออาร์พีซี ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปตท.เคมิคอล

เอสซีจี-ไทยพาณิชย์

พลังขับเคลื่อนของกลุ่มธุรกิจเก่าแก่ที่สุดในสังคมธุรกิจ แม้ดูไม่โลดโผน แต่ก็แสดงให้เห็นว่าในช่วงศตวรรษของความผันแปรทางการเมืองและเศรษฐกิจไทยหลายช่วงนั้น สามารถฟันฝ่ามาได้อย่างดี

อย่างไรก็ตามมีการยอมรับอย่างไม่เป็นทางการว่า วิกฤติการณ์ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ท่ามกลางความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของบรรดามืออาชีพ(ถือหุ้นใหญ่ โดยสำนักงานทรัพย์สินฯ)  ส่งผลสะเทือนใหญ่หลวงกว่าทุกครั้ง ภายใต้กระบวนการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะ”การดัดออกมืออาชีพ”บางส่วน และใช้เวลาในการปรับตัวไม่นานนัก กิจการสำคัญ– ธนาคารไทยพาณิชย์ และเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ก็ค่อยๆกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าใครจะวิจารณ์อย่างไร(โดยเฉพาะสื่อต่างชาติ) แต่สำหรับผมให้ความสำคัญ ในเรื่องความสามารถของมืออาชีพ ถือเป็นกลุ่มธุรกิจไทยกลุ่มสำคัญที่มีบรรดามืออาชีพมากฝีมือแวดล่อมอยู่จำนวนมาก

ผมนำเสนอเรื่องราวและความคิด โดยเฉพาะเกี่ยวกับเอสซีจีอย่างต่อเนื่อง มาเกือบๆสามทศวรรษ   เพิ่งสัมผัสได้ว่ามีปรากฏการณ์”หวั่นไหว” เพียงเล็กน้อยสะท้อนมาสู่ภายนอกบางระดับ อย่างไรก็ตามผมยังไม่เชื่อว่า เป็นภาพสะท้อน”มืออาชีพ”รุ่นปัจจุบัน ว่าด้วยประสบการณ์ ความหนักแน่น ความมันใจ เชื่อมโยงกับความคลุมเครือเกี่ยวกับทิศทางและอนาคตธุรกิจ ซึ่งอาจมาจากภาพเปรียบเทียบอย่างหยาบๆกับช่วงเวลา”มืออาชีพ”รุ่นก่อนหน้านั้น

ซีพี

วันนี้ซีพี มีสินค้าภายใต้เครือข่าย สามารถเข้าถึงสังคมไทยมากที่สุด

สินค้าและบริการสำหรับผู้บริโภค   เริ่มจากอาหารพื้นฐาน อาหารกึ่งสำเร็จ และสำเร็จรูป ทั้งมีแบรนด์ และไม่มี ทั้งในตลาดแบบดั้งเดิม และ ตลาดแบบใหม่(Modern trade) สินค้าอาหารชีพีพัฒนาไปอีกขั้น ไม่เพียงครอบครองตลาดอาหารส่วนใหญ่ ยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ด้วย   อีกด้านหนึ่งมีบริการพื้นฐานของสังคมสมัยใหม่ โดยเฉพาะบริการสร้างฐานระบบสมาชิกมากที่สุดในประเทศ   ครอบคลุมตั้งแต่ เครือข่ายโทรศัพท์บ้าน มือถือ ทีวีบอกรับ อินเทอร์เน็ต   ฯลฯ

เครือข่ายร้านค้า   สินค้าและบริการส่วนใหญ่ต้องใช้เครือข่ายที่เป็นจริงเข้าถึงผู้บริโภค  หากมองเฉพาะสินค้าคอนซูเมอร์ ไม่เพียงสินค้าเป็นที่จริงและจับต้องได้ อย่าง อาหาร  แม้แต่สินค้าด้านสื่อสาร  ล้วนจำเป็นต้องมีเครือข่ายเชื่อมโยง เครือข่ายของซีพีไม่เพียงร้าน   7-Eleven   ยังมีเครือข่ายอื่นๆ ทั้งลักษณะ Franchise และเป็นของตนเอง เช่น     True shop, True move shop, True coffee, CP fresh mart    แม้กระทั่งร้านเคลื่อนที่ไกย่างห้าดาว

ความเชื่อมโยงแบบเกื้อกูลระหว่างธุรกิจหลักทั้งสาม (เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ซีพี ออลล์  ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ )ดำเนินไปอย่างน่าสนใจ   ทั้งการสร้างสรรค์สินค้าและบริการ ด้วยแนวคิดข้ามพรมแดน ทั้งมิติสถานที่จริง(Places) และสถานที่ใหม่ (cyber spaces) ผสมผสานกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบการบริหารการขนส่งสินค้า (Logistics) เครือข่ายซีพีจึงเป็นโมเดลธุรกิจ สะท้อนความสามารถในแข่งขัน ในขณะเดียวกันมีพลังและอิทธิพล ต่อชีวิตของผู้คนในสังคมไทย

ภาพแสดงผ่านกิจการหลัก(โภคภัณฑ์อาหาร  ซีพี ออลล์  และ ทรู คอร์ปอเรชั่น) ในตลาดหุ้น ถือว่าซีพีได้พยายามแสดงตัวตนต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนและโปร่งใสมากขึ้นๆ ถือเป็นวิวัฒนาการใหม่ของรากฐานธุรกิจครอบครัว เป็นปรากฏการณ์เกิดขึ้นหลังผ่านวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่เมือทศวรรษที่แล้ว  แสดงถึงประสบการณ์และความมั่นใจที่มีมากเป็นพิเศษ  ความมั่นใจอาจจะสะท้อนมากกว่าความสามารถในการก้าวผ่านวิกฤติการณ์ อาจรวมถึงความมั่นใจในการก้าวผ่าน ความไม่แน่นอนของอำนาจในสังคมไทยที่ผันผวนอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาด้วย

ไทยเจริญหรือทีซีซี

กลุ่มธุรกิจไทยใหญ่ภายใต้การนำของเจริญ-วรรณา  สิริวัฒนภักดีได้รับความสนใจเสมอ รวมทั้งได้รับการประเมินอย่างสูงในเรื่องความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรและอำนาจทางธุรกิจ  โดยเฉพาะหลังจากผ่านอุปสรรคในช่วงวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่   แต่สำหรับผมยังมองว่ากำลังอยู่ในช่วงการปรับตัว  ไม่ว่าการจัดกลุ่มธุรกิจใหม่ จะด้วยเหตุผลเพื่อความเสริมสร้างความสามารถในการบริหาร หรือการจัดแบ่งอำนาจและทรัพย์สินในครอบครัว  ไม่ว่าความพยายามผ่องถ่ายการบริหารจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

แม้ว่ากระบวนการปรับตัวอย่างอย่างจริงจังจะเริ่มแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่คงต้องใช้เวลาแสวงหาความลงตัวอีกพักใหญ่ แต่ยังน่าสนใจเสมอ ในบทบาทก้าวไปข้างหน้าอย่างครึกโครมตามสไตล์ที่เร้าใจ   ภาพสะท้อนคลุมเครือ สะท้อนผ่านตลาดหุ้นไทยบ้าง เนื่องจากกิจการหลักไม่ได้อยู่ และไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอ   มีเพียงบางกิจการซึ่งล้วนเข้าครอบงำ (Take over)ในระยะหลังๆทั้งสิน   เช่น เบอร์ลี่ยุคเกอร์   เสริมสุข และโออิชิ

กลุ่มเซ็นทรัล

ด้วยมีบุคลากรคุณภาพภายใต้ระบบครอบครัว  และจากประสบการณ์ในการบริหารเครือข่ายสินค้าไลฟ์สไตล์สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมเมือง-สังคมสมัยใหม่  กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งอิงกับฐานลูกค้าในเมืองจึงเติบโตต่อเนื่อง แม้จะสะดุดบ้างบางครั้ง

กระบวนการเติบโตนอกจากด้วยยุทธ์เงินกู้( Debt financing)  ในส่วนการลงทุนสูงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ใช้แผนระดมทุน ผ่านกิจการสำคัญในตลาดหุ้น คือ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เซ็นทรัลพัฒนา และโรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า

ยังมีอีกหลายธุรกิจจำเป็นต้องกล่าวถึง แม้จะเคยกล่าวถึงมาแล้ว โดยเฉพาะ กลุ่มสหพัฒนพิบูล  หรือกลุ่มอื่นที่น่าสนใจตามลิสต์นี้  —บ้านปู   ทุนธนชาติ   อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์  แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์   และกรุงเทพดุสิตเวชการ  เป็นต้น

โปรดติดตาม ตอนที่เข้มข้นมากขึ้นๆ

ผู้เขียน: viratts

writer and farmer

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

%d bloggers like this: