เขาเป็นตัวอย่างของการสร้างคนขององค์กรเก่าแก่ของไทยที่ปรับตัวอยู่เสมอ กว่าจะก้าวขึ้นมาดูแลกิจการเซรามิก ที่มีสินทรัพย์หลายพันล้านบาท ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นกระบวนการสร้างผู้บริหารใหม่ที่สามารถกล้าคิดออกจากกรอบ และสามารถสร้างโมเดลใหม่ให้กับธุรกิจเก่า
เขาเรียกว่า Fashion Business ให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ในเชิงศิลปะมากขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมเซรามิก ซึ่งเชื่อว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า เข้ามาแทรกสงครามราคาของสินค้าพื้นฐาน จากฐานการผลิตด้วยเทคโนโลยีไม่แตกต่างกัน
แนวคิดใหม่ค่อนข้างขัดแย้งกับยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเน้นประสิทธิภาพการผลิตอย่างเครือซิเมนต์ไทย ธุรกิจโมเดลใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มจากการดีไซน์ ขณะเดียวกันก็ต้องการEconomics of Scale
กานต์ ตระกูลฮุน มาจากครอบครัวเชื้อสายจีน มีธุรกิจการค้า ในย่านใกล้ๆสำนักงานใหญ่เครือซิเมนต์ไทย เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในช่วงเดียวกับธุรกิจของครอบครัวล้มละลาย เลยต้องมุทำงาน ทั้งๆที่จบปริญญาตรีวิศวกรรมไฟฟ้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากจุฬาฯ แต่บางบริษัทไม่รับเพราะเกรงว่าจะไปศึกษาต่อ
เครือซิเมนต์ไทยรับเขาเข้าทำงานโดยส่งไปเป็นนายช่างประจำโรงงานที่ทุ่งสง ทางภาคใต้ “ถ้ามันจะออก ก็ให้มันออกไปเลย หากมันอยู่ทุ่งสงได้ ก็คงไม่ไปไหนอีกแล้ว เพราะ ที่นั่นมันไกลสุด และเป็นแดนสีชมพู” เขาเล่าให้ฟังถึงแนวคิดการบริหารบุคคลของเครือซิเมนต์ไทยในตอนนั้น
กานต์ ตระกูลฮุน เดินทางเช่นเดียวกับนายช่างพื้นฐานของเครือซิเมนต์ไทย ต้องประจำโรงงานในต่างจังหวัดยาวนานช่วงหนึ่ง กว่าจะไต่เต้าในหน้าที่การงาน เขาโชคดีตรงที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงงานใหม่ๆเสมอ การก่อสร้างโรงงานใหม่ทำให้เขามีความรู้ด้านการบริหารในภาพกว้าง ไม่เพียงเฉพาะเทคโนโลยี โดยเฉพาะในยุคของเขา โรงงานปูนซีเมนต์พัฒนาไปมาก ด้วยเครื่องจักรสมัยใหม่ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์จากบริษัทชั้นนำของโลก
เขาใช้เวลาคลุกคลีในโรงงานในช่วงของการขยายการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา จากทุ่งสงทางภาคใต้ขึ้นมาแก่งคอย ฐานการผลิตปูนซีเมนต์ใหญ่ของเครือซิเมนต์ไทย จนล่วง 6 ปีเต็มจึงมีโอกาสได้ทุนบริษัทไปศึกษาต่อต่างประเทศ ใช้เวลาประมาณ 2 ปีสามารถจบปริญญาสองสาขาทั้งด้าน Ceramic Technology และ Management จาก The Georgia Institute of Technology
เขากลับมาในช่วงเดียวกับเครือซิเมนต์ไทยกำลังขยายกิจการต่างๆ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนั้นอีกประมาณ 13-14 ปี กานต์ ตระกูลฮุนใช้เวลาพัฒนาความรู้ ความสามารถจากประสบการณ์ที่ท้าทายมากขึ้น แต่ในช่วงเวลานั้นคนรุ่นเดียวกับเขา ในวงการธุรกิจการเงิน และสื่อสารเติบโตในตำแหน่งการงาน และมีผลตอบแทนที่มากกว่ามาก
นอกจากบุกเบิกงานใหม่อยู่เสมอ เขายังมีโอกาสเข้าไปแก้ปัญหากิจการธุรกิจอิฐทนไฟ กรณีผู้บริหารระดับสูงตบเท้าลาออก จากประสบการณ์ทั้งหลายด้าน ทำให้เขามีโอกาสมากขึ้น มีงานใหญ่ขึ้น เกี่ยวข้องกับมิติของการจัดการมากกว่าการผลิต จากการบริหารคนและเทคโนโลยีไปสู่การจัดการการเงิน
ประสบการณ์สำคัญ คือการริเริ่มโครงการปิโตรเคมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคที่อินโดนีเซีย เป็นโครงการที่ใหญ่มาก เป็นกิจการร่วมทุนกับนักลงทุนต่างประเทศ แต่วิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจได้เกิดขึ้นเสียก่อน โครงการจึงต้องชะลอไป
กานต์ ตระกูลฮุน ถูกคัดเลือกเป็นหนึ่งในทีมงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในแผนการปรับโครงสร้างเครือซิเมนต์ไทยครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปีเมื่อปลายปี 2541
เขาได้รับคัดเลือกเป็นหัวหน้าทีมในภารกิจครั้งสำคัญ เขามีโอกาสเรียนรู้ เข้าใจภาพรวมกิจการ มีประสบการณ์ การเจรจา ต่อรอง การประนีประนอม ในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจซึ่งเป็นงานที่หนักมาก ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้เรียนรู้จาก ชุมพล ณ ลำเลียง ผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทยโดยตรง
เมื่อโครงสร้างใหม่จัดขึ้น เขาถูกวางตัวเป็นกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเซรามิก กลุ่มที่ยังมีปัญหา ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาอีกมาก
กานต์ ตระกูลฮุน ใช้เวลา 22 ปีในการสะสมประสบการณ์ ก่อนก้าวสู่ตำแหน่ง ผู้บริหารอย่างเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังเผชิญบททดสอบที่ท้าทายภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้าย
หากเขาผ่านไปได้ โอกาสของคนธรรมดาคนหนึ่งย่อมมีมากขึ้นแน่นอน
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2543