TCC Assets

ไม่ว่าผู้คนจะมีมุมมองทางเศรษฐกิจ เชิงลบหรือไม่ อย่างไร  สำหรับธุรกิจใหญ่ๆแล้ว ดูมั่นใจเดินหน้ากันอย่างคึกคัก

ความเคลื่อนไหวอย่างคึกโครมเวลานี้  มาจากแผนการวางไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนในช่วงก่อนหน้าพอสมควร  เพื่อให้เดินหน้ามาถึงจุดสำคัญในจังหวะเวลาที่เหมาะสม

อย่างที่เคยว่าไว้บ้างแล้ว กลุ่มธุรกิจใหญ่ไทย เคลื่อนไหวในกระแสอย่างคึกคักเป็นพิเศษ  ไม่ว่า กลุ่มซีพี กลุ่มทีซีซี และ บุญรอดบริวเวอรี่ รวมทั้งกลุ่มเซ็นทรัลกับกรณี Central Retail และเพิ่งผ่านไป  จนมาถึงเรื่องราวCentral village เพิ่งเปิดบริการเป็นทางการ ท่ามกลางกรณีขัดแย้ง

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจล่าสุด อยู่ที่กลุ่มทีซีซี ด้วยแผนการ ทั้งครึกโครมและเงียบๆ อย่างแยบยล

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC (อักษรย่อในตลาดหลักทรัพย์ฯ) บริษัทพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทีซีซี  กันแผนการเข้าตลาดหุ้น เดินหน้าไปอีกก้าวอย่างรวดเร็วทันใจ ถึงขึ้นประกาศแผนขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรก(IPO) จำนวนไม่เกิน 8,000 ล้านหุ้น กำหนดราคาเสนอขาย 6.00 บาทต่อหุ้น(จะสามารถระดมเงินได้48,000ล้านบาท) โดยมีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (road show) ไปเมื่อ 11 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้จะ เปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 25-27กันยายน2562

ข้อมูลนำเสนอว่าด้วยลักษณะธุรกิจอย่างคร่าวๆระบุว่า AWC ถือครองและบริหารทรัพย์สินในทำเลสำคัญใจกลางกรุงเทพและเมืองใหญ่  มีโรงแรมเปิดดำเนินการแล้ว 10 แห่ง โรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหรือมีแผนพัฒนา 5 แห่ง และว่าได้เซ็นสัญญาซื้อโรงแรมอีก 12 แห่ง เพื่อพัฒนาในช่วง 5 ปีต่อจากนี้

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีพื้นที่รวมกันราว 6 แสนตารางเมตร แบ่งเป็นกิจการค้าปลีก 10 โครงการ รูปแบบต่าง ๆ หลากหลาย ที่สำคัญ คือ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์  เกตเวย์ แอท บางซื่อ   พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ  ส่วนสำนักงานมีทั้งสิ้น  4 โครงการ พื้นที่รวม 2.7 แสนตารางเมตร โครงการสำคัญๆ คือ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ และแอทธินี ทาวเวอร์

 “เริ่มจากการลงทุนในที่ดิน พัฒนามาลงทุนในกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลเมื่อปี 2537 เข้าร่วมทุนกับ Capital Land Co.,Ltd ในปี 2546 และพัฒนากลายมาเป็นสายธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ ‘ทีซีซีแลนด์ กรุ๊ป’ปัจจุบัน คือ “แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น” หรือ “ASSET WORLD CORPORATION (AWC)” ความเป็นมาที่ควรทราบ อ้างมาจากต้นแหล่ง (https://www.assetworldcorp-th.com) เป็นที่รู้กันว่า ช่วงปี2546 กลุ่มทีซีซีมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ พยายามให้ทายาทสืบทอดกิจการ กลุ่มธุรกิจข้างต้น (AWC) อยู่ในการบริหารของบุตรีคนที่สอง-วัลลภา ไตรโสรัส

ที่จริงแล้ว สินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทีซีซี ภายใต้การนำของเจริญ-วรรณา สิริวัฒนภักดี ยังมีอีกมาก มีการจัดหาใหม่อยู่ตลอดเวลา  ทั้งมีการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนเกิดอีกกลุ่มบริษัทในเวลาต่อมา

บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร มีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีซีซี กรุ๊ป มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการต่าง ๆ ได้แก่ โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และพื้นที่ร้านค้าปลีก ควบคู่ไปกับธุรกิจโรงแรม และบริการทางสารสนเทศ” กลุ่มธุรกิจข้างต้นบริหารโดยบุตรชายคนสุดท้อง-ปณต สิริวัฒนภักดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ

หากพิจารณาธุรกิจทีซีซี แอสเซ็ท( TCC Assets)อย่างเจาะจง จะพบว่ามีการพัฒนาขึ้นในหลายพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะย่านพระราม4  อาทิ    โครงการ FYI Center(สร้างเสร็จปี2559)  Samyan  Mitrtown  เพิ่งเปิดตัวบางส่วน  และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ฯ (เริ่มปรับปรุงใหม่ ตั้งแต่ปี 2561ตามแผนจะแล้วเสร็จในอีก3ปี)

ที่สำคัญเป็นพิเศษ คือ โครงการOne Bangkok บนที่ดิน104 ไร่หัวมุมถนนพระราม 4-ถนนวิทยุ ด้วยแผนการลงทุนถึง 1.2 แสนล้านบาท

ดังข้อข่าวครึกโครกครั้งใหญ่ เมื่อ2 ปีที่แล้ว –‘One Bangkokพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในไทย (4 เมษายน 2560 ) ทั้งนี้ได้ปรากฏถ้อยแถลงของเจริญ สิริวัฒนภักดี ไว้หลายตอนอย่างตั้งใจเป็นพิเศษโดยเฉพาะ “ ทางกลุ่มรู้สึกเป็นเกียรติที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระหากษัตริย์ได้ให้ความไว้วางใจในการพลิกโฉมพื้นที่ผืนสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ”โครงการนี้เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นดำเนินการ

ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก ทีมงานดำเนินการโครงการ One Bangkok  นอกจาก TCC Assets แล้วยังมี Frasers Property ด้วย

“บริษัท เฟรเซอร์ พรอพเพอตี้ จำกัด เป็นบริษัทระดับอินเตอร์เนชันแนล ที่ถือกรรมสิทธิ์การพัฒนา และการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลายประเภท โดยบริษัทมีชื่ออยู่ในบอร์ดหลักของ Singapore Exchange Securities Trading Limited (“SGX-ST”) และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ….สินทรัพย์ของ เฟรเซอร์ พรอพเพอตี้ ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย เพื่อการค้าและการพาณิชย์ และเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงสินทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม และการขนส่งในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ยุโรป จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ บริษัทยังประกอบธุรกิจ ด้านการบริการที่พักเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ และโรงแรมหลายแห่งในกว่า 80 เมืองทั่วภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา อีกด้วย” (https://onebangkok.com/th/About/team )

อันที่จริง Frasers Property Limited(FPL)  เพิ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก Frasers Centrepoint Limited (FCL) ก่อตั้งในสิงคโปร์เมือ3ทศวรรษที่แล้ว(ปี2531)  ค่อยๆขยายกิจการกลายเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เมื่อเข้ามาอยู่ในเครือข่าย Fraser and Neave หรือF&N(ปี2533) ได้ขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศ  ต่อมาเมื่อกลุ่มทีซีซีเดินแผนการใหญ่บุกเบิกธุรกิจภูมิภาค เข้าซื้อกิจการ Fraser and Neave ( ปี2556) เป็นดีลครึกโครม ตื่นเต้นสำหรับสังคมธุรกิจไทย   กลุ่มทีซีซีได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Frasers Centrepoint Limitedไปด้วย ในระหว่างนั้น Frasers Centrepoint Limited   มีแผนการเชิงรุกดีลใหญ่ดีลหนึ่งอยู่  สำเร็จในปีถัดมา( 2557 )  เป็นไปตามแผนการเข้าซื้อเครือข่ายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย-Australand   ปัจจุบันFPLมีสินทรัพย์(มิถุนายน2562 )มากกว่า 33,600 ล้านเหรียญสิงคโปร์

ในปี2556   ทีซีซีเข้าครอบงำการบริหาร FCL ในทันที รวมทั้ง ปณต สิริวัฒนภักดี ได้เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการด้วย  เป็นจังหวะเดียวกัน มีการก่อตั้ง TCC Assetsในประเทศไทย  จากนั้น ปณต  สิริวัฒนภักดี ก้าวขึ้นเป็นGroup Chief Executive Officer ของ FCL(ปี2559)  ช่วงคาบเกี่ยวกับมีดีลใหญ่ โครงการ One Bangkok  เป็นเรื่องน่าภูมิใจไม่น้อย  ตั้งใจบันทึกไว้ profile  ”ในฐานะผู้นำในแผนการพัฒนาโครงการ One Bangkok โดยกิจการการร่วมทุนระหว่าง TCC Assets   กับ FPL  ถือเป็นโครงการใหญ่ในประเทศไทยเท่าที่มีมา”( https://www.frasersproperty.com)

เมื่อต้นปี ในจังหวะแอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC  เตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น  Frasers Property (Thailand)หรือ FPT ก็กำเนิดขึ้น ในฐานะกิจการในเครือ FPLแห่งสิงคโปร์  เปิดฉากขึ้นด้วยการเข้าซื้อบริษัทในตลาดหุ้นไทย(ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น  หรือTICO )แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น FPT แผนการเป็นไปค่อนข้างเงียบๆสำเร็จลงเมื่อเมื่อต้นปีนี้เอง  ถือเป็นแผนการเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม(Backdoor listing)ในทันที

แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ  Frasers Property (Thailand)หรือ FPT ดำเนินไปอย่างกระชั้นต่อจากนั้น  ตามมาด้วยการเข้าซื้อกิจการ บริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จ ากัด (มหาชน)  หรือGOLD บริษัทในตลาดหุ้นอีกแห่ง(กุมภาพันธ์2562)  อันที่จริง GOLDเป็นกิจการในเครือ TCC Assets  อยู่แล้ว  จนถึงขณะนี้ดูจะมีแผนการผ่องถ่ายกิจการในเครือ TCC Assets ให้ มาอยู่ในเครือข่าย FPT กำลังดำเนินไปเป็นขั้นๆ

กลุ่มทีซีซีดำเนินแผนการอย่างคึกคัก ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งก้าวไปอีกขั้น  ทั้ง AWC  และ FPT  กิจการภายใต้ครอบครองและบริหารโดยครอบครัว สิริวัฒนภักดี   กลุ่มธุรกิจหนึ่งเปิดโฉมหน้าออกมาอย่างชัดแจ้ง อย่างน่าเกรงขามในประเทศไทย ขณะที่อีกกลุ่มธุรกิจหนึ่ง  ก้าวออกสู่ระดับภูมิภาคอย่างน่าตื่นเต้น  รวมทั้งเข้ามาดำเนินแผนการใหญ่อย่างแยบยลในไทยด้วย

สำหรับกลุ่มทีซีซีแล้ว  ความเคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉงในช่วงเวลานี้  คงมาจากบทวิเคราะห์อันรอบคอบ กับความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม 

ผู้เขียน: viratts

writer and farmer

ใส่ความเห็น