ผมมีประสบการณ์ในการอยู่บ้านมากคนหนึ่ง ในฐานะต้องอยู่บ้าน ทำงานบ้าน และทำงานเลี้ยงชีพ ในสถานทีเดียวกันเกือบๆทศวรรษปีมานี้
งานบ้านที่สำคัญของผมอย่างหนึ่ง ก็คือการจัดการสวน ซึ่งมีมิติตั้งแต่การศึกษา หาความรู้เรื่องต้นไม้ การปลูก การดูแล รวมไปจนถึงการติดตาม ศึกษา เฝ้ามอง ชื่นชมฯลฯ
เรื่องราวและแนวคิดจากนี้เกิดขึ้นมาจากประสบการณ์ของตนเอง
การเจริญเติบโตของบ้านจัดสรร เป็นสัญญาลักษณ์ของขยายตัวสังคมระดับกลางของสังคมเมือง ในช่วงกว่า 3ทศวรรษมานี้ได้ก่อบุคลิกใหม่ในบางมิติในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ทั่วไป
การจัดสวนในบ้าน ส่วนใหญ่ดำเนินกันเอง ตามกำลังทรัพย์ ได้ก่อปรากฏการณ์อย่างบังเอิญขึ้น นับได้ว่าเป็นโมเดลใหม่ แต่มีร่องรอยมาจากภูมิปัญญาชุมชนไทยที่สืบทอดมายาวนาน
การเติบโตของพื้นที่เพาะปลูกไม้ผลบางชนิด โดยเฉพาะมะม่วง ขนุน ฝรั่ง ฯลฯ แทรกในในสวนขนาดเล็กไม่กี่ตารางเมตร โดยรวมกันทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล อาจกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ตามแนวคิดดั่งเดิม เป็นแนวโน้มการพัฒนาชุมชนเมืองในเชิงเศรษฐกิจอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ บางคนบอกว่าผลไม้เศรษฐกิจเหล่านี้ราคาไม่แพงขึ้นนัก เพราะมีแหล่งเพาะปลูกตามบ้านจัดสรรเป็นแหล่งใหญ่อีกแหล่งหนึ่ง ดีมานต์จึงลดลงไปพอสมควร
ไม้ผลเหล่านี้ ควรจะกลับมาเป็นไม้ผลประจำครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากสังคมชุมชนเพื่อการเกษตรได้ลดบทบาทตนเองอย่างชัดเจนไปในสังคมไทยเมื่อ30ปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากการพัฒนาระบบราชการ ภาคบริการ และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมทั้งสวนผลไม้ชั้นดีหลายแห่งถูกทำลายไปพร้อมๆกับการเกิดขึ้นของบ้านจัดสรรในช่วงเศรษฐกิจพองเกินธรรมชาติ
ชุมชนไทยดั้งเดิม บริเวณบ้านมีไม้ผล พืชผักสวนครัว ไม้ไทยที่สวยงาม ดอกหอมฯลฯ นอกจากเพื่อเป็นร่มเงา ความร่มรื่น สวยงามแล้ว ผู้อยู่อาศัยมีความรู้ทางการเกษตรกรรม ปลูกไม้ผล พืชผักสวนครัว หรือสวนสมุนไพร เพื่อการยังชีพเป็นสำคัญ
บุคลิกชุมชนเดิมนั้น เป็นชุมชนมีเสน่ห์มากขึ้น สำหรับสังคมปัจจุบัน
พืชพันธุ์ไม่ไทย มีชนิดหลากหลาย มีบุคลิกพิเศษ โดดเด่น สามารถพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่ม ก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมาย นับว่าเป็นสินค้าชนิดหนึ่งทีมีความสำคัญของไทยเชิงยุทธ์ศาสตร์ระดับโลกมากขึ้นด้วย
ระดับที่หนึ่ง-พืชพันธุ์ไทย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ผล ไม้ดอก หรือสวนครัวคู่บ้าน ทำให้สังคมบ้านมีการผลิตทดแทนการซื้อจากภายนอก นับเป็นกุศโลบายที่ดี ในการดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 รัฐไทยเคยส่งเสริมให้ชาวนา ซึ่งทำสวนครัวไม่เป็น ทำสวนครัวกันขนานใหญ่ ช่วยลดภาระของครอบครัว ในยามข้าวยากหมากแพงไปได้ระดับหนึ่ง
ระดับที่สอง-พืชพันธุ์ไทย มีหลากหลาย เป็นผลผลิตของสังคมไทยที่มีคุณค่าอย่างมาก นอกจากจะเป็นอาหารต่อการดำรงชีวิตพื้นฐานแล้ว พืชพันธุ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพร มีคุณสมบัติในในการเสริมสร้างสุขภาพ ป้องกันโรคและรักษาโรค เมื่อพืชพันธุ์ไทย เข้ามาอยู่ในบ้าน การศึกษาอย่างจริงจังอาจจะเกิดขึ้น จากนั้นก็นำไปสู่การวิจัยและพัฒนา สร้างผลิตภัณฑ์ไทยใหม่ๆเป็นสินค้ามีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น
ความรู้ ความชำนาญเหล่านี้ จะค่อยๆกลับคืนมา ในสังคมชุมชนและครัวเรือนอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งคนอยู่บ้านเป็นคนที่มีความรู้ ย่อมมีโอกาสพัฒนาความรู้ทางเทคโนโลยี่การเกษตร ซึ่งถือกันว่าเป็นเทคโนโลยี่ ที่มีอิทธิพลต่อโลกยุคต่อไป ต่อจากเทคโนโลยี่สารสนเทศ
ระดับสีสาม-การจัดสวนตามแนวคิดใหม่ ได้ก่อตัวขึ้นแล้ว กลายเป็นบุคลิกเฉพาะ ของการจัดสวนในบ้านเรา ซึ่งใช้ความรู้มาจากภูมิปัญญาของสังคมไทยมาประสมประสาน ปัจจุบันวิชาชีพจัดสวนส่วนใหญ่ เป็นเพียงการศึกษาการจัดสวนสไตล์ตะวันตก เน้นให้ความสวยงามมิติเดียวของไม้ตกแต่ง แม้ว่าจะเป็นสวนเขตเมืองร้อน(Tropical Garden) เราได้เรียนรู้จากฝรั่งมาอยู่ในเขตร้อนแล้วใช้พืชพันธุ์ในเขตนี้จัดสวนให้เข้ากับธรรมชาติ จึงกลายเป็นอีกสไตล์ที่สร้างบุคลิกการจักสวนให้ความรู้สึกตะวันออกสะท้อน คุณค่าใหม่ของงานภูมิสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ในระดับโลก
การใช้พื้นที่เล็กๆในบ้านจัดสรรที่เหลือรอบๆบ้านเพื่อการจัดสวน ทั้งสวยงาม บริโภค และจัดเป็นกิจกรรมยามว่าง ในบ้านไปพร้อมๆกัน บ้านจึงเป็นสถานที่เป็นส่วนสำคัญของชีวิตมากขึ้น เกิดแรงจูงใจให้ผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น เข้าใจและมีความรู้ในการอยู่บ้านมากขึ้น
บ้านในสังคมเมืองใหญ่ ควรมิใช่แหล่งบริโภคอย่างเดียว ภารกิจใหม่ คือเป็นแหล่งผลิตสินค้า ที่มีมูลค่าสูงกว่าการผลิตเชิงอุตสาหกรรม เป็นบุคลิกที่เป็นจริงเป็นจัง หนึ่งของสังคมไทย
บ้านจากนี้ไป ไม่ใช้สิ่งก่อสร้างที่ดูแข็งทื่อ หากจะมีชีวิตมากขึ้น