ธนินท์ เจียรวนนท์

 หากถามผมว่า ผู้นำนักธุรกิจคนใด  แสดงบทบาทเชิงตัวแทน การปรับตัวของธุรกิจไทย  ในช่วง3-4ทศวรรษสำคัญที่ผ่านมาได้อย่างน่าทึ่ง   ก็คงยกให้ ธนินท์ เจียรวนนท์

บทบาท 

บางทีการศึกษาเรื่องราวของคนๆหนึ่ง จากข้อมูลพื้นๆ(ส่วนใหญ่เป็นสถิติหรือข้อมูลประวัติบุคคลสั้นๆ) ก็อาจจะมีมิติที่ลึกซ่อนอยู่   แม้ว่าผมจะติดตามเรื่องราวของธนินท์ เจียรวนนท์ มานาน  เมื่อกลับมาพิจารณาข้อมูลพื้นๆ ก็ยังพบเรื่องราวที่น่าสนใจ

 ธนินท์ เจียรวนนท์ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปซีพีในวัยเพียง 25ปีเท่านั้น แม้ว่ามีการวิเคราะห์กันว่า ในการบริหารธุรกิจครอบครัว พี่ชายสามคน ย่อมมีอำนาจตัดสินใจมากกว่า โดยเฉพาะพวกเขามีบทบาทในการสร้างกิจการมาก่อน อย่างไรตาม บทบาทในตำแหน่งนี้มีความสำคัญมากน้อยขึ้นอยู่กับ การแสดงบทบาทของเขาเอง ผมคาดว่าจากประสบการณ์ในสหสามัคคีค้าสัตว์ และบทบาทในการบริหารงานอย่างแข็งขันด้วย ธนินท์ จึงเป็นผู้บริหารที่ได้รับการยอมรับพอสมควร แม้ว่ามีอายุน้อยที่สุดคนหนึ่ง ไม่เพียงมองจากซีพี ถือเป็นกิจการที่เติบโตพอสมควรในเวลานั้น หากในระดับสังคมธุรกิจไทยด้วย อ่านเพิ่มเติม “ธนินท์ เจียรวนนท์”

อิทธิพลซีพี

ผมตื่นเต้นเสมอ  เวลาเขียนถึงเครือเจริญโภคภัณฑ์(Charoen Pokphand Group –CP Groupเรียกกันจนติดปากแล้ว ซีพี) ในช่วง30 ปีในฐานะนักเขียนเรื่องราวธุรกิจ    ผมคิดว่า ซีพีคือธุรกิจ ทีมีความสำคัญและทรงอิทธิพล ต่อสงคมไทย อย่างต่อเนื่อง และนับวันจะมากขึ้นด้วย

คนที่คิดว่ารู้จักซีพีดี  ก็คงติดตามพัฒนาการอย่างกระชั้นชิดมากทีเดียว  ภาพเครือธุรกิจที่มีพลวัตรและซับซ้อน มากกว่าที่คิดไว้  โดยเฉพาะหลังวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อปี  2540 ผมยังนึกไม่ออกว่า มีกลุ่มธุรกิจไทยกลุ่มใด สามารถแสวงโอกาสใหม่ๆได้อย่างซีพี อ่านเพิ่มเติม “อิทธิพลซีพี”

กลุ่มสหพัฒน์(2)โมเดลทางธุรกิจ

หลายคนถามถึงภาพลักษณ์กลุ่มสหพัฒน์   ผมขอยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการอรรถาธิบาย

“เครือสหพัฒน์ เริ่มต้นมาจากการนำสินค้าต่างประเทศ มาจำหน่าย ต่อมาได้พัฒนา เป็นผู้ผลิตสินค้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งยังได้ร่วมทุนกับต่างประเทศในการผลิตสินค้าและบริการ ปัจจุบันเครือสหพัฒน์เติบใหญ่จนเป็นเครือบริษัทของคนไทย ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง มีบริษัทในเครือกว่า 200 บริษัท และมีสินค้าและบริการเป็นที่รู้จัก หลากหลายกว่า 30,000 รายการ จากกว่า 1,000 แบรนด์ที่จำหน่ายในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก  สินค้าส่วนใหญ่ผลิตโดยตรงจากโรงงานในสวนอุตสาหกรรมของเครือทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สวนอุตสาหกรรม ศรีราชา( ชลบุรี)   กบินทร์บุรี (ปราจีนบุรี) และ ลำพูน รวมพื้นที่ถึง 6,000 ไร่  โดยมีพนักงานทั่วประเทศ รวมกันกว่า 100,000 คน” นี่คือภาพกว้างๆที่มองโดยสหพัฒน์เอง(รายละเอียดเพิ่มเติม  อ่านใน www.sahapat.co.th) อ่านเพิ่มเติม “กลุ่มสหพัฒน์(2)โมเดลทางธุรกิจ”

บทเรียนสหพัฒน์(1) ช่วงก้าวกระโดด

ผมไม่ทราบว่า บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา จะพูดถึงพัฒนาการ กลุ่มธุรกิจสหพัฒน์อย่างไรในปาฐกถาครั้งสำคัญ ในสุดสัปดาห์นี้

กลุ่มธุรกิจนี้เกิดขึ้นและเติบโตหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีพัฒนาการที่น่าศึกษา โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านสำคัญ   ในช่วง30 ปีแรก ถือว่าเป็นยุคก้าวกระโดด จากนั้นมาเป็นช่วงการสร้างระบบ และขยายตัวตามโมเมนตัมทางธุรกิจ

 จุดเปลี่ยนสำคัญอย่างมีสีสันและตื้นเต้น   ถือเป็นบุคลิกและวงจรสำคัญ ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ไลฟ์สไตล์ มักจะเกิดขั้นเป็นระยะๆ   สำหรับสหพัฒน์ในยุคหลังๆมานี้ ดูเหมือนยังไม่มาถึง แม้ว่าบางคนจะมองว่าการกำเนิดของแบรนด์ไทย — bsc มีความสำคัญมากในยุค บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา แต่ยังต้องติดตามผลต่อไป

ผมเพียงหวังว่า มุมมองของผมจากนี้ จะช่วยให้การฟังบทเรียนจากปากของคนไม่ค่อยจะแสดงต่อสาธารณะชนนัก  น่าสนใจขึ้น ไม่มากก็น้อย อ่านเพิ่มเติม “บทเรียนสหพัฒน์(1) ช่วงก้าวกระโดด”

เครือเจริญโภคภัณฑ์ในมุมของฮาร์วาร์ด

 หมายเหตุ

Harvard Business School ได้ศึกษาธุรกิจของซีพี และเขียนเรื่องราวเป็นกรณีศึกษาไว้ เนื้อหาจากนี้ไปก็คือ ข้อความที่เรียบเรียงบางส่วนมาจากเอกสารกรณีศึกษาซีพี ซึ่งมีขึ้นในราวปี 2535 ถือเป็นยุคข้อต่อของการเปลี่ยนแปลงซีพีได้อย่างดี  เอกสารชิ้นนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2535

สภาพทั่วไปของกิจการ และความเป็นมา

Operating Groups

ซีพีมีธุรกิจอยู่ทั้งหมดแปดกลุ่มคือ การเกษตร การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เมล็ดพืช และปุ๋ย การค้าระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมการผลิตปิโตรเคมี การค้าส่ง และค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ โดยแต่ละกลุ่มมีผู้บริหาร ที่เป็น แกนนำคือ President และเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน ตำแหน่งเหล่านี้มีการผลัดเปลี่ยนกันเป็นระยะ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาองค์กรและบุคลากร ในขณะที่กิจกรรมการดำเนินการของกลุ่มขยายตัวด้านกว้างครอบคลุมอุตสาหกรรมหลากหลายแขนง ทั้งหมดนี้มีหลักการนำทางเดียวกันคือ การผนวกประสานในแนวดิ่ง (Vertical integration) และเป็นรูปแบบหลัก ที่ซีพีพัฒนาขึ้นมาใช้ในการสร้างความมั่งคั่งในประเทศกำลังพัฒนา แม้ว่าจะเป็นหลักการกว้างๆ แต่สามารถสรุปแนวทางได้ดังต่อไปนี้ อ่านเพิ่มเติม “เครือเจริญโภคภัณฑ์ในมุมของฮาร์วาร์ด”

ธนินท์ เจียรวนนท์ หาโรงเรียนให้ลูก

 

ศุภชัย เจียรวนนท์

 เกิด 24 มีนาคม 2510

 การศึกษา

ประถมศึกษา โรงเรียนสมถวิล, พิพัฒนา, Taipei American School ไต้หวัน (ป.3),

เซนต์ดอมินิค

มัธยมศึกษา, อัสสัมชัญ (ม.1-3), The Shipley School

(เกรด 9), Dwight-Englewood School (3 ปี)

อุดมศึกษา B.A. (Finance) Boston University 2532

อ่านเพิ่มเติม “ธนินท์ เจียรวนนท์ หาโรงเรียนให้ลูก”

อุตสาหกรรม”ครบวงจร”ของซีพี

ซีพีจึงได้ขยายเข้าไปในอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัว ด้วยการเริ่มผลิตวัตถุดิบสำหรับทำอาหารสัตว์ ทำฟาร์มเพาะเลี้ยงลูกไก่ สร้างโรงงานแปรรูปอาหาร และเนื้อไก่ ในกระบวนการนี้ ซีพีได้นำอุปกรณ์ใหม่ทันสมัยเข้ามาใช้ เพื่อผลิตไก่แช่แข็งคุณภาพสูง เทคโนโลยีตัวนี้เรียกว่า เทคโนโลยี IQF หรือ Individual Quick Freezing ซึ่งทำได้ด้วยความร่วมมือจากบริษัทเทรดดิ้ง เฟิร์มของญี่ปุ่น

ธนินท์ เจียรวนนท์ ได้ทุ่มเทความพยายามในการผลิตอาหารสัตว์ในประเทศ เนื่องจากเขาคาดการณ์ว่า จะเป็นธุรกิจที่โตเร็ว ด้วยความต้องการเนื้อไก่ และหมูในประเทศมีมากขึ้น จากทำการศึกษา ตลาด การขนส่ง และเทคโนโลยี การผลิตอย่างดีแล้ว ปี 2511 ธนินท์จึงตัดสินใจตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์โดยใช้ชื่อว่า บริษัทเจียรวนนท์ จำกัด (บริษัทถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัทกรุงเทพอาหารสัตว์ จำกัด ในปี 2514) โรงงานตอนนั้น นับได้ว่าเป็นโรงงาน ที่ทันสมัยแห่งแรกของประเทศ อย่างไรก็ตามช่วงปี 2512-2520 รัฐบาลให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์แบบทันสมัยผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จนเป็นเหตุให้คู่แข่ง อย่างศรีไทยปศุสัตว์ และเบทาโกรเริ่มเข้ามาแข่งขันในธุรกิจนี้ กลุ่มซีพีรับมือกับการท้าทายครั้งนี้ด้วยยุทธ์ศาสตร์สำคัญ 2 ประการนั่นคือ ทำให้สถานภาพของอุตสาหกรรมโรงงานอาหารสัตว์มั่นคงขึ้น ด้วยการผลิตในปริมาณมากๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต ในอีกด้านหนึ่ง ที่ทำก็คือ ใช้ระบบการผลิตแบบครบวงจรกับอุตสาหกรรมสัตว์ปีก อ่านเพิ่มเติม “อุตสาหกรรม”ครบวงจร”ของซีพี”

e Corporate archive

 “ระบบข้อมูลประวัติศาสตร์เครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG  มีคุณค่าหลายมิติ   เป็นระบบฐานความรู้ นำเสนอบทเรียนที่มีคุณค่าในอดีต มาเชื่อมต่อกระบวนการการสร้างองค์กรความรู้ในปัจจุบัน  เป็นการเคลื่อนย้ายความรู้ในอดีตสู่ปัจจุบัน เป็นกระบวนการเคลื่อนย้ายความรู้ที่เป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคลให้เป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าขององค์กร   ระบบฐานข้อมูลซึ่งเข้าถึงได้อย่างสะดวกทั้งในแง่เวลาและสถานที่  สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบนำเสนอ   และสร้างคุณค่าเพิ่มอย่างยืดหยุ่นและหลากหลาย”

สรุปความส่วนหนึ่งของข้อเสนอในการจัดทำระบบข้อมูลประวัติศาสตร์เครือซิเมนต์ไทย    ปี 2550
อ่านเพิ่มเติม “e Corporate archive”